บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มกราคม, 2019

มิลล์คอน สตีล หัวใจสำคัญของคุณสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล

รูปภาพ
คุณ สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ผู้บริหารแห่วงการเหล็กและวงการตลาดหุ้นของไทยที่นอกจากจะหน้าตาอปป้าอินเทรนด์แล้ว ยังมีความสามารถในการบริหารมิลล์คอน สตีล การวางเป้าหมายบริษัทมิลล์คอน สตีล คุณสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล บอกว่าส่วนสำคัญของเขาก็คือเหล็ก ซึ่งเขาอยากให้มิลล์คอนอยู่ในวงการที่มั่นคง มีโอกาสในการเติบโตมาขึ้น เพราะตอนนี้เขาอยากให้เดินไปได้ไกลและคุณสิทธิชัยมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ดีที่สุด การบริหารงานของคุณสิทธิชัย เพราะว่าเขามาปรับปรุงโครงสร้างภายในองค์กรใหม่ ทำให้มีการปรับตัวพอสมควร โดยเขาให้ทุกคนมีการวางแผนนโยบายร่วมกัน โดยมีการเริ่มแนวทางร่วมกัน มาช่วยระดมความคิดและนำมาเอารวมกัน โดยหากมีการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ทำให้มีการพัฒนาและก้าวหน้ามากขึ้น โดยการบริหารงานคือความตั้งใจในการทำงาน ซึ่งทุกงานนั้นมีปัญหา ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่โดยเราต้องมองโลกในแง่บวก ไม่ท้อแท้ มีการให้กำลังใจต่อเอง เพื่อให้ปัญหาที่เข้ามาสามารถยิ้มรับและแก้ไขปัญหาต่อไปได้ การใช้ชีวิตของคุณสิทธิชัย เพราะการที่อ่านหนังสือทำให้มีข้อคิดที่ดีๆ อยู่ในนั้น โดยคุณสิทธิชัยนำมาใช้ชีวิตจริงไม่ว่าจะเจอปัญหาใดก็จะสู้และมองโลกใ

สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ผู้ก่อตั้งมิลล์คอน สตีล กับความเป็นพ่อค้าเหล็กในสายเลือด

รูปภาพ
สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ผู้ก่อตั้ง บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL จึงทำให้เขาตัดสินใจกอบกู้กิจการค้าเหล็กเดิมที่คุณสมภพ ลีสวัสดิ์ตระกูล ผู้เป็นพ่อสร้างขึ้นจากวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 จนกิจการถูกยึดเป็นทรัพย์สินของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) โดยกว่าจะฟื้นฟูกิจการให้กลับมาเป็นปึกแผ่นอีกครั้ง นอกจากต้องปรับปรุงโครงสร้างและปลดล็อกภาระหนี้เดิม ยังต้องรวบรวมเงินกู้เพื่อหาเงินก้อนมาซื้อโรงงานคืนและตั้งเป็นบริษัทใหม่ในชื่อ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (MILLCON) ให้สถานะของครอบครัวกลับคืนมาดังเดิม ด้วยความมุ่งมั่นตั้งแต่แรกว่าจะต้องโตมาในสายงานนี้ และความเป็นลูกชายคนโตเลยทำให้คุณสิทธิชัยคิดแบบนี้มาตลอด การกอบกู้กิจการครอบครัวของคุณสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล จบการศึกษาคว้าปริญญาโทด้านวิศวกรรมศาสตร์จาก Warwick University เมื่อรู้ว่ากิจการของครอบครัวเกิดเป็นหนี้ เขานั้นได้เริ่มสร้างธุรกิจใหม่ด้วยการทำเทรดดิ้งสินค้าเหล็ก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย ตัวเขาเองที่ยังเป็นผู้บริหารอายุน้อย แต่ด้วยความมุ่งมั่นทำให้คุณสิทธิชัยเดินหน้าเจรจาขอสินเชื่อแบบไม่ลดล

Creative Ventures ตั้งเป้าลง Startup แบบ Deep Tech โดยการจับมือกับนักธุรกิจรุ่นใหม่มาร่วมลงทุน

รูปภาพ
Creative Ventures ประกาศเปิดรับการลงทุนกองที่ 2 มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ US โดยมีผู้ร่วมลงทุนเป็นนักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทยหลายท่าน รวมไปถึงคุณ สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ผู้ก่อตั้งบริษัท มิลล์คอน สตีล บริษัทเหล็กรายใหญ่ของประเทศไทย การบริการกองทุนรอบ 2 General Partner ของ Creative Ventures อย่างคุณ ปุณยธร สุทธิพงษ์ชัย ได้พูดถึงแนวทางการบริหารกองทุนรอบที่ 2 โดยจะเน้นไปที่ Startup ที่พัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงหรือที่เรียกกันว่า Deep Tech ที่เอาไว้แก้ปัญหาสำคัญของโลกได้แก่ ปัญหาเรื่องอาหาร เกษตรกรรม และแรงงานในอุตสาหกรรม คุณปุณยธรเชื่อว่าการลงทุนในธุรกิจการสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีที่มีความจำเป็นเพื่อให้มีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมไปถึงประสิทธิภาพของเศรษฐกิจเพื่อตอบแทนทางการเงินที่เหนือกว่าในระยะยาว รายชื่อของนักธุรกิจที่ร่วมลงทุน Partner ของ Creative Ventures อย่างคุณ โปษะยะกฤษณะ ถิรพัฒน์ ได้กล่าวว่านักลงทุนในกองทุนที่ 2 นั้นมีนักลงทุนที่มีความประสบความสำเร็จและมีวิสัยทัศน์ โดยมีการลงทุนผ่านทั้งบริษัทและในนามส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นคุณอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ คุณภูริต ภิรมย์ภักดี ค

ในความโชคร้ายมักจะเห็นข้อดีอยู่เสมอ เรื่องราวจากคุณ สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล

รูปภาพ
ในวงการวัสดุก่อสร้างและวงการเหล็ก หรืแม้กระทั่งวงการหุ้นคงจะรู้จักกับคุณ สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ผู้ก่อตั้งบริษัทเหล็กรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ที่เรารู้จักกันในนาม มิลล์คอน สตีล ซึ่งยังเป็นบริษัทที่มีอิทธิพลในวงการตลาดหุ้นของประเทศไทยอีกด้วย กว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กว่าจะมาถึงจุดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่หลายคนคิด เพราะเมื่อย้อนกลับไป 2540 ที่ประเทศไทยพะวิกฤตครั้งใหญ่ บริษัทต่างพากันล้มกันไปอย่างนับไม่ถ้วน โดยครบครัวของคุณ สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ก็โดนวิกฤตนี้เช่นกัน ทำให้คุณสิทธิชัยต้องกลับมากอบกู้ครอบครัวอีกครั้งด้วยวัย 23 ปี โดยไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเข้ามารับแบกรักหนี้สินระดับนี้ได้ ซึ่งส่งผลให้คุณสิทธิชัยทำงานอย่างหนัก ในความโชคร้ายนั้นมีข้อดีบางอย่างให้เห็น การที่คุณสิทธิชัยมารับปัญหาในครอบครัวทำให้เขากล้าทำในสิ่งต่างๆ มีปัญหาก็แก้ไขและเดินหน้าลุย ด้วยความทุ่มเททำให้ระยะเวลาไม่กี่ปีบริษัทก็กลับมาฟื้นอีกครั้ง และเริ่มทำกำรมากขึ้น โดยเริ่มจากทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท จนในปี 2547 กลายมาเป็นทุนจดทะเบียนกว่า 200 ล้านบาทได้อย่างรวดเร็ว จนปัจจุบันมีมูลค่าสูง